วันพุธที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2553

บริษัท Subcontract




Outsourcing หรือ Subcontract ที่หลาย ๆ คนพอจะคุ้นเคย ซึ่ง Subcontract สรุปง่าย ๆ ก็คือการที่บริษัทหรือโรงงานให้บริษัทอื่นจัดหาพนักงานมาทำงานให้บริษัทของตนเอง ที่พบเห็นก็เช่น พนักงานฝ่ายผลิตตามโรงงานทั่ว ๆ ไป

ทำไมโรงงานหรือบริษัทนายจ้างถึงเลือกใช้วิธีการจ้างงานแบบนี้ มีเหตุผลหลายอย่าง ซึ่งพอจะแจกแจงได้ ดังนี้

- ลักษณะงานที่จะให้ทำอาจมีระยะเวลาไม่นานหรือไม่แน่นอน เช่นต้องการฝ่ายผลิตมาทำงาน 1 ปี ซึ่งมียอดผลิตที่แน่นอน แต่หลังจากนั้นยังไม่รู้ว่าจะมีออร์เดอร์ หรือเปล่า อาจต้องมีการปลดพนักงานบางส่วนถ้าออร์เดอร์น้อย อาจต้องจ่ายเงินค่าชดเชยการเลิกจ้าง แต่ก็คงไม่มากเท่ากับเลิกจ้างพนักงานประจำ ที่สำคัญการเลิกจ้างซับ จะง่ายกว่าการเลิกจ้างพนักงานประจำ

- ถ้าใช้ Subcontract ฝ่ายบุคคลของของโรงงานหรือบริษัทไม่ต้องมายุ่งยากกับการสรรหาคน ไม่ต้องมาคิดเงินเดือน ไม่ต้องมาดูแล ทุกสิ่งเหล่านี้บริษัทซับคอนแทร็คส์จัดการทั้งหมด นอกจากนี้บริษัทสามารถที่จะให้บริษัทซับ ฯรับประกันว่าจะสามารถหาคนให้ในจำนวนที่ต้องการได้อย่างแน่นอน และที่แน่ ๆ สามารถใช้บริษัทซับได้ไม่จำกัด ใครสามรถหาคนให้ได้ ก็ใช้บริการซับนั้นแหล่ะ

- มีคนมารับอาสาจัดสรรสวัสดิการให้พนักงานแทน ประหยัดต้นทุนบริษัทได้อีกเยอะเลย เช่น บริการรถรับส่ง เงินสมทบประกันสังคม สวัสดิการวันลา วันหยุด ลาป่วย ลาคลอด

ในปัจจุบันการใช้บริการบริษัทซับ ฯ จะเห็นได้มากในนิคมอุตสาหกรรม ที่มีโรงงานที่ต้องการแรงงานในฝ่ายผลิตเยอะ ๆ

แล้วบริษัทซับ ฯ มีรายได้จากการให้บริการจัดหาพนักงานมาจากไหน ? สำหรับเรื่องรายได้ บริษัทซับจะเบิกเงินจากบริษัทที่ใช้บริการ โดยเบิกมา 2 ส่วน คือ

1. ค่าแรงและค่าล่วงเวลาที่จะต้องจ่ายให้พนักงาน รวมทั้งสวัสดิการอื่นที่เป็นตัวเงินที่เซ็นต์สัญญากับพนักงานก่อนเริ่มงาน เช่น ค่าอาหาร ค่ากะ ค่าเดินทาง เงินในส่วนนี้บริษัทซับ ฯ จะจ่ายให้พนักงานทั้งหมด

2. ค่าบริการในการจัดหาคน ซึ่งเป็นรายได้โดยตรงของบริษัทซับ ฯ อาจได้รับเป็นเปอร์เซ็นต์ของค่าแรงพนักงาน เช่น ค่าบริการ 30 % ของค่าแรงพนักงาน

ยกตัวอย่าง ถ้าจัดหาพนักงานค่าแรงวันละ 200 บาท จำนวน 10 คน ทำงานทั้งหมด 10 วัน ดังนั้นค่าแรงที่ต้องเบิกมาจ่ายให้พนักงาน = 200x10x10 = 20,000 บาท ซึ่งบริษัทซับ ฯ จะได้ค่าบริการ (30 %) = 6,000 บาท
ดังนั้นบริษัทซับ ฯ จะต้องเบิกเงินจากบริษัท = 20,000 (ค่าแรงพนักงาน) + 6,000 (ค่าบริการ) = 26,000 บาท

หรือค่าบริการอาจคิดเป็นค่าหัวต่อคนต่อวัน เช่น ค่าบริการ 40 บาท/คน/วัน หมายความว่า ถ้าบริษัทซับ ฯจัดหาคน 1 คน จำนวน 1 วัน บริษัทซับ ฯ จะได้ค่าบริการ 40 บาท ดังนั้นจากตัวอย่างข้างต้น บริษัทซับ ฯ จัดหาพนักงานทั้งหมด 10 คนเป็นเวลา 10 วัน จะได้ค่าบริการ = 40x10x10 = 4,000 บาท
ดังนั้นบริษัทซับ ฯ จะต้องเบิกเงินจากบริษัท = 20,000(ค่าแรงพนักงาน) + 4,000(ค่าบริการ) = 24,000 บาท

เงินค่าบริการที่บริษัทซับ ฯ ได้มานั้น จะต้องแบ่งจ่ายเป็นเงินสมทบเข้าประกันสังคม จ่ายเข้ากองทุนเงินทดแทน ค่าภาษีเงินได้ ที่เหลือจึงจะเป็นรายได้ของบริษัทซับ ฯ

คงพอจะเข้าใจขึ้นมาบ้างนะครับ ว่าถ้าเราทำงานผ่านบริษัทซับ ฯ จะไม่โดนหักค่าหัวคิวสักบาท ถ้ามาหักจากเรานั่นแสดงว่าบริษัทซับ ฯ ทำผิดกฎหมายครับ

อ่านแล้วสงสัย แสดงความคิดเห็นได้ครับ ติดตามในหัวข้อใหม่ในโอกาสต่อ ๆ ไป ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น